โอจีเจีย ดินแดนแห่งธรรมชาติ


โอจีเจีย ดินแดนแห่งธรรมชาติ


ผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกดีมาก ปัญหาคือผมไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ขณะกำลังหลับตาผมได้ยินเสียงคลื่นสาดซัดและกลิ่นทะเล ต้นสนจูนิเปอร์และพืชที่มีกลิ่นหอมหวานอื่นๆ พอลืมตาผมพบว่าผมอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งที่เปล่งประกายระยิบระยับด้วยคริสตัลหลากสี ผมตกตะลึง จึงรีบลุกจากเตียงผ้าฝ้าย เดินเซเล็กน้อยออกไปนอกถ้ำก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าท้องฟ้าสีน้ำเงิน พืชนานาพันธุ์ที่หายากและคาดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว ทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา ใกล้ที่สุดของผมเป็นกุหลาบหกสี ไม้ระแนงที่เต็มไปด้วยต้นสายน้ำผึ้ง และเถาองุ่นที่ออกผลสีแดงและสีม่วงเปล่งปลั่งมากมายมันช่างวิเศษมาก หากไม่ได้มีสิ่งที่วิเศษมากกว่ากำลังส่งยิ้มมาให้ผมอยู่ ตื่นแล้วรึ หญิงสาวทัก ผมผงะถอยหลังเพราะร่างเธอเปล่งแสงที่เขียวจางๆออกมา และรอบตัวเธอ โอ้คุณพระช่วย! เป็นสิ่งมีชีวิตที่ผมรู้จักในนิทานปรัมปราเช่น คนธรรพ์ กินนร กินรี อมนุษย์พืชและสัตว์และรวมไปถึงเซเทอร์(มนุษย์ครึ่งคนครึ่งแพะในเทพนิยายกรีก) เซนทอร์(มนุษย์ครึ่งคนครึ่งม้าในตำนานกรีกเช่นกัน)  และเหล่านางไม้ ซึ่งตรงหน้าผมต้องเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน ขอต้อนรับสู่เกาะโอจีเจีย ดินแดนแห่งธรรมชาติ ข้าชื่อ จูนิเปอร์จิตวิญญาณแห่งธรรมชาติ เรารอท่านมานานแล้ว เทพีได้เลือกท่านแล้ว ท่านจะเป็นผู้ตามหาเมล็ดพันธุ์ในตำนานซึ่งจะปลุกองค์เทพีแห่งธรรมชาติจากนิทราอันยาวนาน เพื่อให้เทพีมาปกป้องโลกที่กำลังถูกมนุษย์ทำลายไปทีละน้อยจนธรรมชาติใกล้ตายจากโลก ท่านต้องออกเดินทางกับเพื่อนร่วมทางไปทำภารกิจอีกสองคน ซึ่งเป็นตัวแทนของมนุษย์ พืช และสัตว์ เวลามีไม่มาก พวกท่านต้องเดินทางให้เร็วที่สุดด้วยความรู้สึกสับสน งงงวย ผมเหมือนถูกบังคับทำภารกิจบ้าๆซักอย่าง ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี จูนิเปอร์แนะนำเพื่อนร่วมเดินทางอีกสองคนคือ  ภูตต้นไม้นางหนึ่งที่ชื่อว่า ทิวา และเซเทอร์ที่ชื่อว่า ฮอร์นลี่ ” “ ทุกคนพร้อมนะจูนิเปอร์พูด แย่ล่ะ ผมคิด แล้วมันก็สายไป
พริบตาเดียวผมก็มายืนอยู่ที่เมืองใหญ่เมืองหนึ่ง ที่นี่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนการจราจรแน่นขนัด เราต้องเดินไปทางซ้าย ทิวาพูด เธอสามารถสัมผัสได้ถึงพลังธรรมชาติ เราเดินมาถึงสถานที่ซึ่งดูเหมือนเป็นที่เก็บขยะขนาดมหึมากว้างหลายตารางกิโลเมตร และกลิ่นของมันแย่มากๆ ฮึ...พวกมนุษย์ ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของโลกมากมาย ใช้แล้วก็แปรกลับสู่ธรรมชาติไม่ได้ ก็ต้องมาจบตรงนี้ไง ฮอร์นลี่พูดดังๆ  เรารีบหาร่องรอยเมล็ดพันธุ์ตามลักษณะที่จูนิเปอร์บอก เราเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ทุกครั้งที่เราพบร่องรอยบางอย่างสถานที่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หลังจากผ่านเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่,ชายหาดรกร้าง, โรงงานผลิตเครื่องแอร์ ผมก็พบว่าทุกสถานที่ล้วนเป็นที่ที่ทำให้ระบบนิเวศถูกทำลายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ผมจึงพบสาเหตุของการทำลายธรรมชาติมี 3 ทาง คือ สัตว์และโรคต่าง ๆ ,ปรากฏการณ์ธรรมชาติ และจากมนุษย์ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด สาเหตุก็เช่น
- การเพิ่มของประชากร ซึ่งจะมีความต้องการในการใช้ ทรัพยากรธรรมชาติในการดำรงชีวิตขั้นต่าง ๆ เพิ่มขึ้นด้วย                                                                                                                                                               - การขยายตัวของเมือง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติต่าง ๆ
- การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เกิดสารพิษตกค้างและอาจไปสู่แหล่งน้ำและแหล่งต่างๆในระบบนิเวศเช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู เป็นต้น                                                                                                                               - การสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ การสร้างถนน อ่างเก็บน้ำ เขื่อน
- การกีฬา ส่วนใหญ่เกิดกับทรัพยากรสัตว์ป่า เช่นการยิงนก ตกปลา และการล่าสัตว์เป็นต้น                                          
 - การสงคราม ก่อให้เกิดการกระตุ้นให้นำทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มาใช้มากขึ้น การนำทรัพยากรแร่ธาตุมาใช้เพื่อการผลิตอาวุธและเครื่องมือต่างๆ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น